1 ก.ค. 2564 17:39 น.
“พล.อ.ประยุทธ์” เปิดงาน “ฮักไทย ฮักภูเก็ต” เผย เห็นคนโบกมือให้พร้อมรอยยิ้ม แสดงว่ามีความสุขขึ้น ยืนยันไม่ท้อแท้ จะใช้สติปัญญาบริหารงบประมาณให้คุ้มค่า ขออย่าห่วง จะทำให้ดีที่สุด
วันนี้ 1 ก.ค. 2564 ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “ฮักไทย ฮักภูเก็ต” (HUG THAIS HUG PHUKET) เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนโครงการ “Phuket Tourism Sandbox” เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายทั้งของคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ตลอดจนเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการทั้ง 3 กลุ่มสินค้า ทั้งอาหาร การท่องเที่ยว และสินค้าไทย ครอบคลุมทั้งการยกระดับสินค้าและบริการ
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงงาน “ฮักไทย ฮักภูเก็ต” ว่า วันนี้มีความสุขที่ได้มา จ.ภูเก็ต ที่เห็นรอยยิ้มของทุกคน ส่วนเมื่อช่วงเช้าก็มีประชาชนโบกไม้โบกมือให้ แสดงให้เห็นว่าทุกคนมีความสุขขึ้น ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ จึงขอขอบคุณทุกคน ส่วนโครงการ “ฮักไทย ฮักภูเก็ต” เป็นโครงการที่ดีมากที่ให้ภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันฟื้นฟูเศรษฐกิจไปข้างหน้า ส่วนความหมายของโครงการคือ เป็นการส่งต่อกำลังใจและโอบกอดคนไทยด้วยความรัก ในช่วงที่คนไทยทุกคนต้องการกำลังใจเพื่อผ่านความท้าทายนี้ไปได้ด้วยกัน ซึ่งโครงการ “Phuket Sandbox” เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ให้ภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่อง เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพ ของจังหวัดภูเก็ต ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมือง “ไข่มุกแห่งอันดามัน” จึงเป็นส่วนหนึ่งในการเดินหน้าเปิดประเทศตามกรอบ 120 วัน เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยว ซึ่งมีคนจำนวนมากที่อยู่ในห่วงโซ่ธุรกิจนี้จะได้มีส่วนร่วมและได้รับประโยชน์ไปด้วยกัน
ข่าวแนะนำ
“ผมทราบดี ทุกคนทำธุรกิจ ทุกคนมีความกังวล ผมไม่เคยทำธุรกิจและไม่มีธุรกิจอะไรสักอย่าง แต่ผมพร้อมที่จะทำให้ท่าน โดยปรึกษาหารือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รัฐมนตรีทุกกระทรวง ในการขับเคลื่อนมาสู่ ครม. จากนั้นก็พิจารณาใน ครม.ในการใช้จ่ายงบประมาณ วันนี้เราก็ทราบปัญหาของเรา ไม่ใช่ว่าท่านเดือดร้อนอย่างเดียว ประเทศชาติก็เดือดร้อน รัฐบาลก็เดือดร้อนมีปัญหา เรื่องงบประมาณที่มันจัดเก็บได้น้อยเพราะอะไร เพราะเราต้องเอามาดูแลพี่น้องประชาชนคนไทย หลายอย่างก็ต้องลด ต้องงด ต้องเลื่อน แต่ผมไม่ท้อแท้ ผมจะพยายามใช้สติปัญญาของผมในการบริหารงบประมาณต่างๆ ที่มีอยู่อย่างคุ้มค่าที่สุด”
นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ทุกคนต้องร่วมมือในการสร้างประวัติศาสตร์ตามแผนของประเทศในการเปิดประเทศภายใน 120 วัน หากที่ภูเก็ตทำได้ทุกพื้นที่ทำได้หมด ขออย่าอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง เพราะแก้อะไรไม่ได้ และตอนนี้ไม่ใช่เวลาทำการเมืองอะไรทั้งสิ้น ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
ทั้งนี้ ยืนยันว่า รัฐบาลดำเนินมาตรการการควบคุมโรค ควบคู่ไปกับสกัดกั้นเชื้อจากภายนอก และการเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ นอกจากนี้ยังเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการให้สามารถอยู่ได้ เช่น มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) มาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจ (มาตรการสินเชื่อฟื้นฟู) วงเงิน 250,000 ล้านบาท และมาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้ “มาตรการพักทรัพย์ พักหนี้” เพื่อผู้ประกอบธุรกิจมีสิทธิซื้อทรัพย์สินนั้นคืนในภายหลัง วงเงิน 100,000 ล้านบาท โดยยอมรับว่ามีความสุข แม้ว่าเหนื่อยมาตั้งแต่เช้า ส่วนเมื่อวานนี้ก็เก็บตัวไม่ได้พูดกับใคร เพราะอยากจะมาพูดที่ภูเก็ตที่เดียว ซึ่งพยายามพูดเพื่อไม่ให้มีปัญหา พร้อมขอคนภูเก็ตต้อนรับนักท่องเที่ยวคนไทยด้วยนอกจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพราะคือเพื่อนร่วมชาติ
“ไม่ต้องห่วง ผมจะทำให้ดีที่สุด จนกว่าที่ผมจะไม่ได้ทำ แต่ต้องขอให้ลดความขัดแย้งลงไปบ้าง เข้าใจไหม ทำไมผมจะไม่เจ็บปวด สั่งอะไรไปที ปิดอะไรไปที ผมเจ็บปวด แต่ท่านเจ็บปวดกว่าผม ถูกไหม แต่ผมก็ต้องทำเพื่อคนอื่นๆ เขาด้วย ถ้าไม่อยากให้ผมทำอย่างนั้น ท่านก็ต้องช่วยให้ตัวเองปลอดภัย ทั่วโลกจับตามองภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์อยู่ นี่คือประเทศของเรา ถ้าไม่ร่วมมือก็ไม่สำเร็จ ไม่มีชาติไหนอยู่ได้ถ้าไม่ร่วมมือกัน จำคำพูดตนเองไว้”
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินทักทายและให้กำลังใจผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมที่มาออกบูธภายในงานด้วย.
อ่านเพิ่มเติม…
