“เสกสกล”ซัดกลับเลขาฯเพื่อไทย สมควรเป็นฝ่ายค้านตลอดชีพ
วันที่ 02 พ.ค. 2564 เวลา 12:13 น.
“เสกสกล” ตอกกลับ”ประเสริฐ” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ไม่เคยหยุดการโจมตี สมควรเป็นฝ่ายค้านตลอดชีพ จวกเอาวิกฤตความเดือดประชาชนมาสร้างสงครามน้ำลายหวังผลการเมือง
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การบริหารสถานการณ์โควิด-19 และการบริหารจัดการวัคซีนของรัฐบาล โดยย้ำว่า นายกฯ รัฐบาล บุคลากรทางการแพทย์ ยังบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 ได้ดี
ทั้งนี้เรื่องการบริหารจัดการวัคซีนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงไปแล้วว่าหลังเปิดให้ลงทะเบียน หมอพร้อม วันที่ 1 พ.ค. สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค จะได้เริ่มฉีดตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. – 31 ก.ค. และในเดือน ส.ค.2564 จะเริ่มฉีดวัคซีนระยะที่ 3 ในกลุ่มประชาชนทั่วไปอายุ 18-59 ปี
ซึ่งการฉีดวัคซีนนั้นนายกฯ ก็ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลได้เตรียมการเรื่องนี้เป็นอย่างดี คนไทยกว่า 50 ล้านคน จะได้รับการฉีดวัคซีนภายในปี 2564 นี้อย่างแน่นอน พร้อมขอให้มั่นใจว่า วัคซีนที่นำมาฉีดนั้นมีความปลอดภัย เพราะชีวิตประชาชนทุกคนมีค่าทุกชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ อย.กระทรวงสาธารณสุข ต้องมั่นใจในคุณภาพก่อนที่จะรับรองออกมาฉีดให้กับประชาชน
ส่วนการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อนั้นยืนยันว่าแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ ทำการรักษาให้กับผู้ป่วยอย่างดีที่สุด และทำอย่างเต็มที่ ยืนยันไม่มีใครอยากให้ผู้ป่วยเสียชีวิต ทั้งนี้ตนเองก็ขอเลขาธิการพรรคเพื่อไทยอย่าออกมาพูด หรือตำหนิเรื่องนี้เพราะทุกฝ่ายได้ร่วมกันทำงานอย่างหนักมาโดยตลอดแทบไม่ได้พักผ่อน และสิ่งที่เลขาธิการพรรคต้องทำคือ การให้กำลังใจในการทำงานมากกว่า และพูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนต่อประเทศชาติบ้าง อย่าพูดแค่เอาดีใส่ตัว เพื่อจ้องหวังล้มรัฐบาลแล้วกระหายอยากให้พรรคเพื่อไทยกลับมามีอำนาจอีกครั้งหนึ่ง อย่างนี้ใช้ได้หรือไม่
ขณะที่การทำงานร่วมกันในทีมรัฐบาล นายกฯ ยืนยันยังทำงานร่วมกันได้ดี ในสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 เช่นนี้ ทุกคนคิดแต่เรื่องการช่วยเหลือประชาชนเป็นหลักไม่ได้คิดถึงประเด็นทางการเมือง ต้องระดมช่วยกันรักษาชีวิตประชาชน ให้สูญเสียน้อยที่สุด อย่าเอาชีวิตลมหายใจประชาชนที่มีค่า มาพูดตีกินทางการเมืองเลย บาปกรรมจะลงโทษเอาควรพึงระวังปากไว้ด้วย
“ผมมองว่าก็จะมีแต่พรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมฝ่ายค้านเท่านั้น ที่คิดถึงแต่ประโยชน์ทางการเมืองของพรรคตัวเอง จ้องแต่จะเล่นการเมือง นำทุกประเด็นมากล่าวหา โจมตีนายกฯ และรัฐบาล ไม่หยุดยั้ง ไม่เคยคิดถึงส่วนรวมเลยว่าประชาชนจะเดือดร้อนอย่างไร ขอแค่เพียงตัวเองได้รับผลประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น จะเกิดความวิบัติฉิบหายต่อประเทศชาติประชาชนอย่างไรไม่สนใจ นักการเมืองที่อ้างเป็นตัวแทนประชาชน อย่างนี้ใช้ไม่ได้”
“หากพฤติกรรมเป็นเช่นนี้ นายประเสริฐ ก็ไม่ต้องกังวลกับกระแสข่าวที่จะเอาพรรคเพื่อไทยเข้ามาร่วมรัฐบาล เพราะพรรคเพื่อไทยไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองเลยสักนิด เหมาะที่จะเป็นฝ่ายค้านมากกว่าเพราะค้านทุกเรื่องโดยไม่ดูถึงข้อเท็จจริงว่า วันนี้ประชาชนต้องการเห็นนักการเมืองหยุดโจมตีด่าทอกัน และหันมาร่วมมือร่วมใจแก้ปัญหาเป็นหนึ่งเดียวกัน และให้ดูตัวอย่างความตั้งใจจริงที่นายกฯและรัฐบาลตลอดจนเจ้าหน้าที่และบุคลากรทุกฝ่าย ได้ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ จนเกิดปรากฏการณ์มีพี่น้องประชาชนจำนวนมากส่งกำลังใจมาให้ทีมแพทย์พยาบาลอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกคน ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในขณะนี้จำนวนคับคั่งมากมายมหาศาล ทำไมฝ่ายค้านและนายประเสริฐไม่ดูตัวอย่างบ้าง”
“นายประเสริฐและพรรคฝ่ายค้าน ไม่ลองหันไปเปรียบเทียบกับประเทศ อื่นๆ ที่ติดเชื้อวันละหลายแสน ตายกันเป็นจำนวนมากดังที่เป็นข่าวดูบ้างว่า ประเทศเรามีการติดเชื้อน้อยกว่าเพียงใด และไม่มีใครอยากให้คนไทยเสียชีวิตแม้แต่คนเดียวไม่ว่าจะตายด้วยสาเหตุใดก็ตาม แต่ขณะเดียวกัน นายกฯและรัฐบาลยังไม่เคยนิ่งเฉยในการควบคุมหยุดยั้งการแพร่เชื้อ ต้องงัดยุทธวิธีทุกมาตรการ ออกมาใช้ เพื่อให้คนไทยปลอดภัยให้มากที่สุด”
“แต่ตรงกันข้ามฝ่ายค้านกลับไม่ยอมหยุดโจมตีทำลายจิตใจกันตลอดเวลา แทนที่จะ “หยุดพูดเพื่อชาติ” กับพูดทำลายน้ำใจกันแบบไม่ยอมหุบปาก ไม่ละอายปากตัวเองเลยสักนิด แล้วแบบนี้จะหวังเป็นพรรคการเมืองที่ให้ประชาชนได้พึ่งพาอาศัยได้อย่างไรกัน”